Breaking News

ประวัติ ทีมฟุตบอลวีแกน แอทเลติก “เดอะ ลาติกส์”

ประวัติ ทีมฟุตบอลวีแกน

ประวัติ ทีมฟุตบอลวีแกน แอทเลติก หรือเรียกสั้น ๆ ว่า วีแกน (Wigan) เป็นสโมสรฟุตบอลระดับอาชีพของอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองวีแกน เทศมณฑลเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ลงแข่งขันในแชมเปียนชิป มีสนามเหย้าชื่อดีดับเบิลยูสเตเดียม ในเมืองวีแกน โดยแบ่งกันใช้สนามกับสโมสรรักบี้ วีแกนวอร์ริเออร์ส

ประวัติ ทีมฟุตบอลวีแกน แอทเลติก

  • ชื่อเต็ม : สโมสรฟุตบอล วีแกนแอทเลติก (Wigan Athletic Football Club)
  • ฉายา :  เดอะ ลาติกส์ (The Latics)
  • ก่อตั้ง :  1932
  • สนาม : ดีดับเบิลยู สเตเดียม  (ความจุ:25,138 ที่นั่ง)
  • ประธาน : ดาร์เรน รอยล์

ผลงานและรางวัลแชมป์

อีเอฟแอลแชมเปียนชิป

  • รองแชมป์ : 2004–2005

อีเอฟแอลลีกวัน

  • แชมป์ : 2015–2016, 2017–2018

เอฟเอคัพ

  • แชมป์ : (2012–2013)[3]

ลีกคัพ

  • รองแชมป์ : 2005–2006

ประวัติ สโมสรฟุตบอลวีแกนแอทเลติก

ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1932

หลังการยุบทีมของ สโมสรวีแกน โบโรเพียงหนึ่งปี ซึ่งทางวีแกนแอทเลติก ได้ทำการซื้อสนามสปริงฟีลด์ปาร์ค จากวีแกนโบโรอีกด้วย จากนั้นพวกเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าสู่เชสเชียร์เคาน์ตีลีก และในช่วงเริ่มต้นของสโมสรนั้น ผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือ การที่สโมสรนั้นชนะคาร์ไลลส์ยูไนเต็ด ไป 6-1 ในเอฟเอ คัพรอบแรก ฤดูกาล 1934-35 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฟุตบอลถ้วย ที่ทีมจากนอกลีก ชนะทีมจากในลีก ซึ่งเป็นสถิติจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาในปีค.ศ. 1945 วีแกนได้ถูกเลือกเข้าไปในอีกลีกคือ เดอะแลงคาเชียร์คอมบิเนชั่น ซึ่งในปีค.ศ. 1950 สโมสรก็พลาดการเข้าสู่ฟุตบอลลีกเพราะสโมสรได้แพ้ให้กับสคันธอร์ปยูไนเต็ด ในการโหวต

เข้าสู่ฟุตบอลลีก

ในยุคของ รอย บี.มาติน หัวเรือใหญ่คนเมืองวีแกนแท้ เมื่อปี1944 ได้เข้ามายกระดับทีมจากดีวิชั่น3ในปีดังกล่าว โดยการหากลุ่มทุนจากสมาคมนักตกปลามอร์ซี่ และกลุ่มทุนจากประเทศกรีซ เข้ามาเป็นสปอนเซอร์หลักในช่วงแรกๆ ถึงตัวผู้เล่นคนสำคัญอย่าง โคบี้ อลันแกรนดวงยิงทีมชาติเวลล์ และกองกลางอย่าง ทีโมน ปาเก้ จากเซบีย่า ประกอบกับแผน4-3-3 ที่แตกต่างจากทีมสโมสรอังกฤษในยุคนั้น โดยกุนซือเจมส์ กราเนอร์ ทำสถิติไร้พ่ายติดกันถึง21นัดในปี1945 จากนั้นอีกสองปีวีแกนได้เลื่อนขึ้นดิวิชั่น1 ในยุคที่ทัพหงส์แดงครองหัวตาราง แต่ทว่าในปีแรกที่เลื่อนชั้นต้องพบกับลิเวอร์พลูเป็นนัดแรก และเป็นวีแกนในยุคของกราเนอร์ไล่ถล่มประตูไปได้ถึง0-90 ในรังแอนฟิล เรียกได้ว่าทำหนึ่งประตูต่อหนึ่งนาทีเลยทีเดียว

ในฤดูกาล2005/2006

โดยวีแกนจบด้วยอันดับ10 และปาสกาล ชิมบงด้า กองหลังของทีมได้ติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาลก่อนที่ฤดูกาล2006/2007 วีแกนฟอร์มตกอย่างชัดเจนก่อนที่นัดสุดท้ายวีแกนสามารถเอาชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 จบด้วยอันดับ17ซึ่งเหนือโซนตกชั้นไป1อันดับหลังจากนั้นพอล จีเวล ได้ลาออกจากตำแหน่งและเป็นคริส ฮัทชิ่ง เข้ามาคุมทีมแทนก่อนฮัทชิ่งจะโดนปลดออกในเวลาต่อมาวีแกนได้แต่งตั้งสตีฟ บรูซ มาเป็นผู้จัดการทีม

ในฤดูกาล2009/2010

เริ่มขึ้นบรูซได้ลาออกไปคุมซันเดอร์แลนด์หลังจากนั้นวีแกนได้แต่งตั้งโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ อดีตนักเตะวีแกนชาวสเปนขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมในฤดูกาล2009-2010 วีแกนสามารถเอาชนะbig 4(แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด,อาร์เซนอล,ลิเวอร์พูล,เชลซี)ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกโดยชนะเชลซี3-1 ในช่วงเดือนพฤศจิกายนวีแกนบุกไปแพ้ท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์ 9-1 ซึ่งถือว่าแพ้ย่อยยับที่สุดของสโมสรในรอบ31ปีโดยเป็นการแพ้ที่ย่อยยับที่สุดนับตั้งแต่เกมส์ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ชนะ อิปสวิสทาวน์ 9-0 ในปี1995ในฤดูกาลนี้วีแกนทำผลงานได้อย่างย่ำแย่แต่สิ่งที่น่าจดจำในปีนี้คือสามารถพลิกล็อกเอาชนะลิเวอร์พูลได้1-0จากฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียและประตูของเมย์เนอร์ ฟิเกรัว กองหลังทีมชาติฮอนดูรัสในเกมส์พบสโต๊คซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นgoal of the season โดยฟิเกรัวยิงจากครึ่งสนามเข้าประตูแต่สุดท้ายก็จบด้วยการเสมอ2-2

About admin

Check Also

นักเตะดาวรุ่ง

นักเตะดาวรุ่ง ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกจากพรีเมียร์ลีก

หอสังเกตการณ์ฟุ …